6 เมนูที่ต้องลองกินในร้านสุกี้หมาล่า

อาหารแสนอร่อยอย่าง “หม้อไฟหมาล่า” หรือ “ชาบูหมาล่า” เรียกได้ว่ากำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ครับ…ด้วยรสชาติเผ็ดจนลิ้นชาเลยก็ว่าได้ครับ จึงทำให้ติดตราตรึงใจใครหลายๆ คน วันนี้เราจึงอยากขอแนะนำท่านผู้อ่านไปกับ “6 เมนูที่ต้องลองกินในร้านสกี้หมาล่า” ที่ต้องไม่พลาดกินกันครับ จะมีเมนูไหนบ้างนั้น เราไปดูกันเล้ยย!!

ทำความรู้จักกับ “หมาล่า”

หม่าล่าเป็นซอสรสจัดที่โด่งดังจากประเทศจีน โดยทำจากเครื่องเทศต่าง ๆ ที่นำมาบดด้วยกันและเคี่ยวกับน้ำมันจนหอม ส่วนผสมที่นิยมใช่ ได้แก่ พริกไทยเสฉวน (ฮวาเจียว หรือ Sichuan peppercorns) น้ำมันพริก กระเทียม พริกแห้ง ขิง อบเชย โป๊ยกั๊ก เมล็ดเทียนข้าวเปลือก และ เมล็ดกระวานดำ สีของหม่าล่าจะแดงจัด จึงเข้ากับรสชาติที่หอมและเผ็ดร้อนเช่นกัน จนอาจทำให้ปากชา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “หม่าล่า” เพราะในภาษาจีน หม่า ma (麻) แปล่ว่า “ชา” และ ล่า la (辣) แปลว่า “เผ็ด” หม่าล่ามีถิ่นกำเนิดในมณฑลเสฉวนที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เรื่องร่าวมีว่าร้านตลาดนัดกลางคืนได้สร้างสรรค์หม่าล่าขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อให้คนงานทาเรื่อของอุตสาหกรรมเรือที่กำลังเฟื่องฟู เนื่องจากหม่าล่าสารถทนต่อสภาพอากาศชื้นได้ดี แถมยังช่วยกลบกลิ่นคาวของวัตถุดิบต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีเลยหล่ะครับ

แนะนำ 6 เมนูที่ต้องลองกินในร้านสุกี้หมาล่า

●หมูย่างหมาล่า นำหมูแผ่นที่ผ่านการสไลด์บางๆ มาเสียบไม้แล้วทาด้วยซอสหมาล่า ปิ้งด้วยไฟที่พอดีๆ จะทำเมื่อสุกจะหอมอร่ยจนลิ้นชาเลยหล่ะครับ

●เห็ดย่างหมาล่า เห็ดกรอบร้อนจืดตัดกับซอสเผ็ดหมาล่า ที่กินแล้วเผ็ดจนลิ้นชา กินได้เพลินๆ เลยหล่ะ

●รากบัวต้มซุปหมาล่า น้ำซุปร้อนๆ กินคู่กับรากบัวต้มจนนิ่ม เมื่อได้ลิ้มลองคงจะฟินเผ็ดร้อนมากๆ เลยหล่ะ

●เอ็นไก่ย่างหมาล่า เอ็นไก่ย่างกรอบรวมกับซอสหมาล่าจะเป็นอะไรที่อร่อยมากๆ เลยหล่ะครับ

●เบคอนพัดเห็ดเข็มทอง ด้วยความอร่อยของเบคอนที่ผ่านการย่างหอมๆ รวมกับซอสหมาล่าแสนเผ็ดร้อนตัดด้วยเห็ดแสนอร่อยจนทำให้เมื่อได้ลิ้มลองแล้วจะอร่อยมากๆ เลยหล่ะครับ

●เอ็นแก้วซอสหมาล่า เนื้อส่วนเอ็นของเนื้อวัวเมื่อผ่านการปิ้งร้อนๆ ร่วมกับซอสหมาล่าจนเข้าเนื้อจะทำให้อร่อยอย่างมากเลยหล่ะครับ

ประโยชน์ของหมาล่า สมุนไพรจีนที่มีดีมากกว่าความเผ็ดและความอร่อย

●ความเผ็ดในระดับที่พอดี ช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้น

●ช่วยในเรื่องของการแก้ไข้ได้เป็นอย่างดี จากความเผ็ดร้อน

●ช่วยขับเสมหะ แก้อักเสบ บรรเทาอาการเจ็บคอ

●มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยต่อต้านเชื้อราและเชื้อไวรัสในร่างกาย

●มีธาตุสังกะสี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย

●ช่วยลดความดันโลหิต และแก้โลหิตจาง

ทำความรู้จักกับ “ระดับความเผ็ดต่างๆ”

ความเผ็ดนั้นไม่ใช่รสชาติแต่เป็นความรู้สึก ร้อน และเจ็บปวดที่รับรู้ได้โดยลิ้นของเรา โดยความเผ็ดเหล่านี้เราสามารถวัดได้โดยวิธีการที่เรียกว่า Scoville Organoleptic Test ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นโดย นาย วิลเบอร์ สกอวิลล์  (Wilbur Scoville) เภสัชกรชาวอเมริกา ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้

–          พริกหวาน (Bell Pepper) SHU = 0

–          พริกปาปริกา (Paprika) SHU = 100 – 1000

–          พริกฮาลาพิโน (Jalapenos) SHU = 3500 – 1000

–          พริกทาบาสโก้ (Tabasco) SHU = 30,000 – 50,000

–          พริกฮาบาเนโร่ (Habanero) SHU = 100,000 – 350,000 ซึ่งมีความเผ็ดระดับเดียวกับพริกขี้หนู

และนี้ก็คือ “6 เมนูที่ต้องลองกินในร้านสุกี้หมาล่า” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นครับ หวังว่าจะเป็นปะรโยชน์ที่ดีแก่ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยครับ