บริการออกแบบกล่องหนัง เคล็ดลับที่จะทำให้สินค้าของคุณเท่ห์เกินใคร

            ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของคนเรามากขึ้น ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถเข้าสู่วงการพ่อค้าแม่ค้าได้อย่างง่ายดาย แค่มีอินเทอร์เน็ตอยู่ในมือ การขายสินค้าแต่ละอย่างจึงมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งการที่คนค้าขายจะอยู่รอดได้ในยุคนี้ จำเป็นต้องทำสินค้าให้แตกต่างกว่า

                แต่สำหรับสินค้าที่มีราคาขายสูงนั้น การจะเปลี่ยนแปลงตัวสินค้าหรือพัฒนารุ่นใหม่ออกมาอาจสิ้นเปลืองเวลาและงบประมาณมากเกินไป เสี่ยงไม่ทันต่อการแข่งขันที่ดุเดือด ดังนั้นควรเลือกสร้างความแตกต่างด้วยวิธีง่าย ๆ และรวดเร็วอย่างการทำแพคเกจจิ้ง (Packaging) หรือบรรจุภัณฑ์ให้น่าใช้ น่าเก็บสะสมจะดีที่สุด ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่แวดวงธุรกิจชอบใช้คือ ออกแบบกล่องหนังและจ้างผลิต เพื่อทำเป็นแพคเกจกิ้งใหม่

ทำไมถึงนิยมออกแบบกล่องหนัง

            จริง ๆ แล้ววัสดุในการทำแพ็คเกจจิ้งมีอยู่มากมาย แต่กับผู้ประกอบการที่ขายสินค้าราคาสูง เช่น นาฬิกา ปากกา เครื่องสำอาง แว่นสายตา เครื่องประดับ หนังสือ ของชำร่วย ฯลฯ จะนิยมใช้กล่องหนัง (Leather box) มากเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะเป็นหนังแท้หรือหนังเทียมก็สามารถทำให้สินค้าดูหรูหรามากขึ้นได้ และถ้ายิ่งทำให้มีความพิเศษด้วยการเป็นแพคเกจจิ้งแบบ Limited Edition ก็จะยิ่งดึงดูดให้คนหันมาซื้อเพื่อเก็บสะสมกันมากขึ้นด้วย เป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้อีกหนึ่งระดับ

หนังแท้ Vs หนังเทียม

            อย่างที่หลายคนทราบกันแล้วว่าวัสดุหนัง มีทั้งแบบหนังสัตว์แท้ 100% และหนังเทียมที่สังเคราะห์ขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างก็มีแบ่งแยกย่อยลงไปหลายเกรด แต่โดยรวมแล้วมีความแตกต่างกันดังนี้

1. หนังแท้จะมีลวดลายตามหนังสัตว์แบบธรรมชาติ คือ ไม่สม่ำเสมอหรือเทียบเท่ากันทั้งแผ่น และเป็นลายเฉพาะตัว มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบกลิ่นสัตว์ หนังแท้อาจไม่ตอบโจทย์ แต่ว่ากันว่าหากใช้ไปนาน ๆ ลายของหนังจะยิ่งสวยขึ้น

2. หนังเทียม แบ่งคร่าว ๆ ได้เป็น PU SemiPU และ PVC ส่วนความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ ลวดลายสม่ำเสมอ เหมาะกับคนที่ชอบความสวยงามแบบเป็นแพทเทิร์น ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องพิถีพิถันเท่าหนังแท้ และที่สำคัญราคาไม่สูง ใช้งบประมาณในการลงทุนไม่มาก

เรื่องควรรู้กับออกแบบกล่องหนัง

            ถ้าพ่อค้าแม่ค้าคนไหนอยากลงมือทำด้วยตัวเอง ก็อาจต้องใช้เวลามากสักหน่อย เพราะหนังเป็นวัสดุที่ค่อนข้างจัดการได้ยากกว่าวัสดุอย่างผ้าหรือกระดาษ เนื่องจากกระบวนการผลิตซับซ้อน มีพื้นผิวที่แตกต่าง มีการใช้งานและการดูแลรักษาที่ค่อนข้างเฉพาะตัว จะเห็นได้ว่ากาวบางอย่างก็ติดหนังไม่ได้ ส่วนกรรไกรถ้าไม่คมพอก็ตัดหนังไม่ออก หรือหนังบางเกรดถ้าเก็บไม่ดีก็ขึ้นราได้ง่าย ๆ ดังนั้นถ้าอยากทำเองจำเป็นต้องลงทุนเรื่องอุปกรณ์มากประมาณหนึ่ง ซึ่งเมื่อไหร่ที่อุปกรณ์พร้อม ก็สามารถใช้วิธีขึ้นรูปกล่องเช่นเดียวกับกล่องกระดาษได้เลย อาทิ การออกแบบกล่องหนังในคอมพิวเตอร์ ปรินท์แพทเทิร์นกล่อง ตัดเย็บและประกอบร่างวัสดุทุกส่วนออกมาเป็นกล่อง

            แต่ถ้ารู้สึกว่าทั้งหมดนี้เกินกำลังของตัวเองไปหน่อย จะเลือกใช้บริการจากบริษัทรับออกแบบกล่องหนังที่สามารถสั่งทำได้เลยอย่าง อาร์ซี แพ็คเกจ ดีซายน์ ก็นับว่าเป็นทางออกที่ดี เพราะมีชื่อเสียงเรื่องการออกแบบและผลิตแพคเกจจิ้งมานานกว่า 30 ปีแล้ว สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสินค้าของคุณได้ อีกทั้งยังมีหนังหลายเกรดให้เลือกตามงบประมาณและความต้องการอีกด้วย